คัดมาให้แล้ว! 5 App เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กทุกวัย ✨

** เพราะยุคสมัยใหม่ การเรียนรู้ไม่ใช่แค่ในหนังสือ!**

มาลองใช้ 5 แอปพลิเคชั่นสุดล้ำ เพื่อการเรียนรู้รอบด้าน ทั้งภาษา วิชาการ การเขียนโค้ด และการลงมือปฏิบัติได้จริง พร้อม AI เทคโนโลยีเพื่อสร้างรูปแบบการเรียนรู้แบบ personalize learning ให้เหมาะกับเด็กแต่ละคน พร้อมกิจกรรมและเกมส์สนุกๆ ให้การเรียนรู้เป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่เสมอ

เริ่มจาก…

Socratic by Google: ติวเตอร์อัจฉริยะ

Socratic by Google เป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยเด็กๆ เรียนรู้ทุกวิชาทั้งวิทย์ คณิต ภาษา ประวัติศาสตร์ และวิชาอื่นๆ อีกหลากหลาย รองรับทั้งภาษาไทยและภาษาอื่นๆ เหมาะสำหรับเด็กอายุ 10 ปีขึ้นไป หรือระดับชั้นประถม 6 ถึงมัธยม 6 เลยค่ะ

Socratic สอนเด็กๆ เรียนรู้ผ่านคำถาม เด็กๆ สามารถถามคำถามอะไรก็ได้ แอปพลิเคชั่นจะใช้ AI วิเคราะห์คำถาม และแนะนำแนวทางการแก้โจทย์ หรือค้นหาคำตอบจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น หากถามวิธีการแก้โจทย์เลขแล้ว สามารถสอนวิธีคำนวณทีละขั้นตอน พร้อมสร้างรูปประกอบให้เข้าใจง่ายขึ้นได้ด้วย

รีวิวจากผู้ใช้ส่วนใหญ่ชอบ Socratic เด็กๆ สนุกกับการเรียนรู้ผ่านคำถาม ผู้ปกครองเห็นว่าแอปพลิเคชั่นนี้ช่วยให้เด็กๆ เรียนรู้เนื้อหาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังใช้ได้ฟรีด้วยค่ะ ปัจจุบันมีผู้ใช้มากกว่า 10 ล้านคนทีเดียว ลอง download มาใช้กันเลย !

 

Duolingo: สอนภาษาต่างประเทศมากกว่า 40 ภาษา

Duolingo เป็นแอปพลิเคชันและเว็บไซต์สำหรับเรียนรู้ภาษาต่างประเทศแบบฟรี ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก สอนภาษาได้มากกว่า 40 ภาษา รวมถึงภาษาไทย มีภาษาสากลที่นิยมเช่น อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น สเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน และภาษาที่หายากด้วย และใช้ระบบการเรียนรู้แบบเกม (Gamification) มีระบบคะแนน ถ้วยรางวัล และการท้าทายต่างๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจและความสนุกในการเรียนรู้

Duolingo ใช้เทคโนโลยี AI Duolingo ใช้ระบบ AI ในการวิเคราะห์การตอบของผู้เรียน ปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคน โดยการวิเคราะห์ข้อมูลของผู้ใช้ เช่น คำตอบก่อนหน้าและความเร็วในการเรียน และแก้ไขข้อผิดพลาด ช่วยให้การเรียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความสามารถของ AI ใน Duolingo ยังมีอีก คือ

โดยสรุป Duolingo คือแอปพลิเคชันเรียนภาษาออนไลน์ที่ผสมผสานการเล่นเกม ระบบ AI และหลักจิตวิทยาการเรียนรู้เข้าด้วยกัน ทำให้เรียนรู้ภาษาใหม่ได้อย่างสนุกสนาน ต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ และสามารถอัพเกรด Duolingo Plus ซึ่งมีราคาประมาณ $6.99 ต่อเดือน และมีความสามารถเพิ่มเติม เช่น ไม่มีโฆษณา และการทบทวนที่ปรับให้เหมาะสมได้มากกว่า

 

Khan Academy Kids: เรียนรู้หลากหลายวิชาผ่านสื่อที่สนุกสนาน

Khan Academy Kids เป็นแอปพลิเคชันการศึกษา Khan Academy เหมาะสำหรับเด็กอายุ 5-8 ปี ช่วยให้เด็กๆ เรียนรู้เนื้อหาวิชาต่างๆ ที่หลากหลาย ทั้งคณิตศาสตร์ ภาษา วิทยาศาสตร์ การอ่าน การเขียน และอื่นๆ พร้อมจัดการเรียนรู้ผ่านเกม กิจกรรม และสามารถรองรับภาษาไทยและอีกกว่า 50 ภาษา รวมทั้งใช้งาน AI ในการปรับแต่งการเรียนรู้ให้เหมาะกับเด็กแต่ละคนให้ตรงกับระดับทักษะ ช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสนุกสนาน

ข้อดีคือใช้ฟรี! ไม่มีโฆษณา (แต่มีให้เรากด donate ได้นะคะ) แถมได้รับรางวัลมากมาย และได้รีวิวจากผู้ใช้ส่วนใหญ่ในเชิงบวก ช่วยให้เด็กๆ เรียนรู้ทักษะพื้นฐานต่างๆ ได้ แต่เด็กเล็กอาจจำเป็นต้องมีผู้ปกครองช่วยด้วยค่ะ

สำหรับเด็กโต โดดไปใช้อีกตัวของเค้า คือ Khan Academy ได้ค่ะ มีบทเรียนครอบคลุมเด็กๆ ตั้งแต่ช่วง 5 – 18 ปีเลย เนื้อหามีตั้งแต่ระดับพื้นฐานของเด็กเล็กไปจนถึงระดับมัธยมที่มีบทเรียนด้านการเตรียมสอบมหาวิทยาลัย เช่น SAT, AP ด้วย ตัวนี้เด็กๆ แอบบอกว่าไม่สนุกเหมือน Khan Academy Kids แต่ก็ถือว่ามีประโยชน์ค่ะ

 

Code.org: วิทยาการคอมพิวเตอร์และการเขียนโปรแกรมออนไลน์

เด็กๆ ส่วนใหญ่ในบ้านเรารู้จัก Code.org กันดีเลยค่ะ เพราะใช้ในหลักสูตรวิชาคอมพิวเตอร์ระดับประถมกันอยู่แล้ว เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาการคอมพิวเตอร์และการเขียนโปรแกรมสำหรับเด็กเล็กจนถึงนักเรียนมัธยมปลาย ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ใช้การสอนแบบผสานการเล่นเกม มีจุดเริ่มต้น ระดับความยาก ผู้ร้าย และเกมพัซเซิล พร้อมออกแบบขั้นตอนจากง่ายไปหายาก เริ่มจากพื้นฐานคำสั่งและ code ง่ายๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มความซับซ้อนและความท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ

มีการใช้เทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์และให้คำแนะนำเมื่อมีข้อผิดพลาด รวมถึงการปรับระดับความยากของบทเรียนให้เหมาะสมกับความสามารถของแต่ละคน

โดยรวมแล้ว Code.org ได้รับคำรีวิวที่ดีมากจากผู้ใช้งานส่วนใหญ่ ทั้งนักเรียน ครู และผู้ปกครอง เพราะง่ายต่อการเรียนรู้สำหรับผู้เริ่มต้น และชื่นชอบรูปแบบการนำเสนอที่สนุกสนาน เหมือนการเล่นเกม พร้อมระบบป้อนคำแนะนำช่วยเหลือหากติดขัด หรือ Hints ให้ด้วย แถมไม่มีค่าใช้จ่ายด้วยจึงได้รับคะแนนรีวิวด้านความคุ้มค่าสูง

 

OSMO: Interactive Learning System ที่ผสานการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติและเทคโนโลยี AI เข้าด้วยกันอย่างลงตัว

OSMO เป็นแอปพลิเคชันและอุปกรณ์เสริมสำหรับการเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์สำหรับเด็ก เหมาะสำหรับเด็กวัย 3-11 ปี เนื้อหาการสอนครอบคลุมหลายวิชา เช่น คณิตศาสตร์ ภาษา วิทยาศาสตร์ การอ่าน การเขียน การเขียนโค้ด และอื่นๆ พร้อมรองรับภาษาไทยและอีกกว่า 50 ภาษา

การใช้งาน OSMO จะใช้กล้องเว็บแคมและกระดานพิเศษในการสแกนและรับรู้วัตถุจริงแล้วแปลงเป็นสิ่งที่เห็นบนหน้าจอ

เด็กๆ สามารถใช้แท่งไม้ ตัวต่อ ตัวเลข หรือวัตถุต่างๆ วางลงบนกระดานเพื่อโต้ตอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นในแอพ โดยระบบ AI จะวิเคราะห์การตอบสนองแล้วปรับระดับความยากและเนื้อหาให้เหมาะสมแบบรายบุคคล ซึ่ง AI เทคโนโลยีที่ใช้มีทั้ง Computer Vision, Machine Learning, Personalized Learning Engine, และ Game AI

แต่ข้อจำกัด คือ หากไม่มีอุปกรณ์เสริมของ OSMO แต่ใช้งานแอปพลิเคชันเพียงอย่างเดียวจะเป็นการเรียนรู้ที่ขาดปฏิสัมพันธ์กับวัตถุจริง ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญของ OSMO และเนื้อหาบางส่วนอาจใช้งานไม่ได้ โดยอุปกรณ์เสริม OSMO Kids มีหลายชุด แต่ละชุดมีเกมและกิจกรรมที่แตกต่างกัน ผู้ปกครองสามารถเลือกซื้อชุดที่เหมาะกับเด็กๆ ได้ ตัวอย่างชุดอุปกรณ์เสริม OSMO Kids เช่น ชุด Starter Kit ชุด Coding Kit ชุด Math Wizard Kit และชุด Words Kit

โดยสรุป OSMO เป็นระบบการเรียนรู้แบบผสมผสานระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงและโลกดิจิทัล โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ในการรับรู้และวิเคราะห์ เพื่อกำหนดเนื้อหาการเรียนรู้ที่เหมาะสมแบบรายบุคคลด้วยค่ะ

Previous
Previous

โลโก้สไตล์ Flat illustration: เรียบง่าย เข้าใจง่าย ดึงดูดทุกสายตา!

Next
Next

สวมบทบาทให้ AI Chatbot ผ่านคำสั่ง Persona Prompt Pattern Persona